fbpx
ขยายเวลาถึง 3 กันยายน 2563 กรอก LIVE18 รับส่วนลดเพิ่ม 18% ทุกหลักสูตร

ข้อสอบ TOEIC ติว-เฉลย-อธิบาย Reading Part 5: Incomplete Sentences (1 January 2016)

สวัสดีในวันปีใหม่ครับ

TOEIC Quiz ต้อนรับปี 2016 นี้ อาจารย์นำมาจากข้อสอบ TOEIC Part 5: Incomplete Sentences ระดับ 700 PLUS+ ครับ ในครั้งนี้ แต่ละตัวเลือกมีลักษณะคล้ายกัน อาจารย์ขอบอกใบ้ว่า ให้ทุกท่านลองสังเกตวิธีการใช้คำที่เขียนนำหน้าช่องว่างในประโยคให้ดี เพราะมันจะช่วยเราเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้ครับ (คำตอบและคำอธิบายอยู่ข้างล่างนี้ครับ)

Give your best effort, and then check out the answer!


EXPLANATION AND ANSWER … >>

ตัวเลือกทุกตัวในข้อนี้มีรากมาจากคำว่า your ครับ:
(A) your own -> ตัวคุณเอง (สื่อว่าทำบางสิ่งบางอย่างด้วยตนเองคนเดียว) / ของคุณเอง
(B) yourself -> ตัวคุณเอง (แสดงให้เห็นว่า “คุณ” เป็นทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ)
(C) your -> ของคุณ (แสดงความเป็นเจ้าของ) -> ใช้เขียนนำหน้า noun (คำนาม) ที่ต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ เช่น This is your book. (หนังสือเล่มนี้เป็นของคุณ)
(D) yours -> ของคุณ (แสดงความเป็นเจ้าของ) -> ใช้เขียนโดด ๆ ด้วยตัวของมันเอง เช่น This book is yours. (หนังสือเล่มนี้เป็นของคุณ)


“ตัวเลือกที่ถูกต้องก็คือ (A) your own ครับ”

สำหรับประโยค
If you have difficulty preparing for a presentation on _____ , ask Mr. Johnson for help.
เราสามารถแปลได้ว่า
“ถ้าหากคุณมีความยากลำบาก/อุปสรรคในการเตรียมพร้อมสำหรับการนำเสนอด้วย _____ ให้ขอความช่วยเหลือจากคุณ Johnson”

สิ่งที่น่าสังเกตในข้อนี้ก็คือ:
1. ก่อนช่องว่างมีคำว่า on ซึ่งเป็น preposition (คำบุพบท) แสดงว่า สิ่งที่ตามมานั้นต้องเป็น noun หรือ pronoun (คำสรรพนาม) ครับ (Click เพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ preposition ครับ)
2. หลังช่องว่างมีเครื่องหมาย comma ( , ) แสดงว่าส่วนที่เราควรให้ความสนใจสิ้นสุดตรงจุดนี้ เพราะในที่นี้ เครื่องหมาย comma ทำหน้าที่จบ clause (อนุประโยค) ครับ

จากสองจุดนี้เอง เราสามารถตัด (C) your ได้ทันที เพราะมันเป็น determiner (คำนำหน้า noun) จึงต้องมี noun ตามหลังเสมอ ไม่สามารถเขียนโดด ๆ ได้ครับ แต่ในเมื่อหลังจากช่องว่างเป็น comma จึงไม่มีที่ให้ใส่ noun เพราะฉะนั้น หากเราเติม your ลงไปในช่องว่าง ก็เท่ากับว่าใช้ determiner โดยไม่มี noun มารองรับ แบบนี้ผิดหลัก เราจึงตัดตัวเลือกนี้ทิ้งครับ

ส่วน (D) yours ถึงแม้จะเขียนด้วยตัวมันเองได้ แต่หากเราย้อนกลับไปอ่านตั้งแต่ต้นประโยคจะพบว่า ไม่มีสิ่งใดเลยที่เราสามารถใช้อ้างอิงถึงได้ เราเลยไม่เลือก choice นี้ครับ

มาถึงตรงนี้ หลาย ๆ ท่านอาจลังเลระหว่าง (A) your own และ (B) yourself เนื่องจากว่าสองตัวเลือกนี้สามารถหมายถึง “ตัวคุณเอง” ได้ทั้งคู่ครับ ที่จริงแล้ว ตามหลักการใช้ภาษาอังกฤษ หากเราจะสื่อความหมายที่กล่าวไว้ข้างต้นนี้ จะต้องใช้ on + your own หรือ by + yourself ครับ ดังนั้น ในเมื่อประโยคใช้ on เราจึงต้องเลือก (A) your own นั่นเองครับ

“ลองทำความคุ้นเคยกับการใช้ preposition และสังเกตให้ดีก่อนที่จะเลือกคำตอบนะครับ”

I wish everyone a joyful, healthy and rewarding 2016!

– อ.ปริญญ์

Leave a Reply